แห่ขอเลขเด็ดต้นตะเคียนอายุกว่า 100 ปี หลังงมจากลำห้วยให้โชคแล้วหลายงวด

หวยออก,เลขเด็ด - ต้นตะเคียนอายุกว่า 100 ปีจมอยู่ในลำห้วย ชาวบ้านนำขึ้นมาแปรรูปโดยไม่ได้ทำพิธีขอขมา ทั้งเจ้าของไม้และคนเลื่อยล้มป่วย ก่อนนำไปไว้ในวัด บวงสรวงขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตย์ในต้นไม้ตามความเชื่อ อาการป่วยหายเป็นปลิดทิ้ง พร้อมให้โชคถูกหวยติดต่อกันสองงวดแล้ว ขณะที่ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างพากันไปขอหวยงวดที่จะถึงนี้คึกคัก
       
       วันนี้ (31 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าในช่วงนี้ที่บ้านหนองแสง ต.ห้วยโจด อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ได้มีชาวบ้านจำนวนมากเดินทางไปขอโชคลาภกราบไหว้ต้นตะเคียนอายุกว่า 100 ปีหลังจากที่มีผู้โชคดีถูกหวยติดต่อกันมาแล้ว 2 งวด จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ
       
       พบภายในวัดอัมพวัน บ้านหนองแสงน้อย มีชาวบ้านกำลังจุดธูปเทียนหน้าขอนไม้ที่กองอยู่ภายในบริเวณวัด โดยมีเต็นท์ผ้าใบเป็นหลังคา ภายในมีท่อนไม้ตะเคียนจำนวน 3 ท่อนความยาวท่อนละ 214 เซนติเมตร วัดรอบลำต้น 230 เซนติเมตร รวมความยาว 6 เมตรเศษถูกตัดกองกันไว้
แห่ขอเลขเด็ดต้นตะเคียนอายุกว่า 100 ปี หลังงมจากลำห้วยให้โชคแล้วหลายงวด         
       บางส่วนมีไม้แปรรูปเป็นไม้กระดานกว่า 20 แผ่น โดยด้านหน้าและด้านหลังของกองไม้โดยรอบขาวโพลนไปด้วยแป้งฝุ่นที่ผู้เสี่ยงโชคทำการทาท่อนไม้เพื่อหาเลขเด็ด ส่วนด้านหน้ามีการตั้งแท่นบูชาเครื่องสังเวยน้ำแดง กระถางเทียนธูป เพื่อใช้จุดบูชาตามความเชื่อ
       
       นายบุญเหลือ มงคุณคำชาว อายุ 62 ปี ชาวบ้านหนองแสงน้อย ต.ห้วยโจด อ.กระนวน จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมาไม้ตะเคียนที่เห็นอยู่นี้ถูกชาวบ้านคือนางนภาพร เป้าเวียง ที่มีที่นาอยู่ใกล้ห้วยทราย ได้นำขึ้นมาจากห้วยเพื่อทำการแปรรูป โดยได้ว่าจ้างช่างให้นำขึ้นมาใช้รถไถ 2 คันลากขึ้นมาจนทำให้โซ่ขาดไปสองเส้น จึงต้องมีการจุดธูปขอเจ้าที่เจ้าทางจึงสามารถนำมาได้ จากนั้นได้ว่าจ้างช่างให้มาเลื่อยทำการแปรรูป
       
       ต่อมานางนภาพร และช่างไม้ที่มาเลื่อยไม้ได้ล้มป่วยลงและมีร่างทรงมาทักว่าไปนำของที่มีเจ้าของมาเป็นเจ้าของให้รีบนำไปคืนถ้าไม่เช่นนั้นจะมีอันเป็นไปถึงชีวิต ต่อมาจึงได้นำมาไว้ที่วัดและทำพิธีขอขมาทำให้ทั้งคู่หายเป็นปลิดทิ้ง
       
       หลังจากข่าวนี้แพร่ออกไปทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงต่างเดินทางมากราบไหว้ขอโชคลาภกันไม่เว้นแต่ละวัน เพราะหลายคนถูกรางวัลติดต่อกัน 2 งวดแล้ว


ที่มาข่าวและภาพ >> manager.co.th